วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (มันสำปะหลัง ข้าว อ้อย) ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ฉบับที่ 6 ระบุว่าไทยจะต้องเปลี่ยนแผนจากประเทศเกษตรกรรมเป็นประเทศอุตสาหกรรม จึงจะสามารถอยู่รอดและมีการพัฒนาประเทศได้แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและดินฟ้าอากาศของประเทศไทยเหมาะในการเพาะปลูก จึงมีผลผลิตทางการเกษตรและ ของเหลือทิ้งทางการเกษตรมากมาย การพัฒนาอุตสาหกรรมจึงได้มุ่งเน้นหนักทางด้านอุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหารเพื่อแปรรูปวัสดุเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและส่งออก เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น แทนที่จะเป็นผลผลิตเกษตรอย่างเดียว ทำให้เกิดอุตสาหกรรมแปรรูปต่างๆ เช่น การผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลัง ผลิตอาหารทะเลสำเร็จรูปจากสัตว์น้ำชนิดต่างๆ เครื่องเฟอร์นิเจอร์จากต้นยางพาราผลิตภัณฑ์ผลไม้ตากแห้ง แช่อิ่ม กวน น้ำผลไม้ สมุนไพรแปรรูป ตลอดจนได้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุหีบห่อขึ้น ซึ่งจากการพัฒนาด้านนี้ ทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายชนิด และรวมทั้งมีวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเหล่านั้นด้วย ซึ่งวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ นี้ อาจจะแบ่ง ประเภทออกได้เป็น 1. ของเหลือทิ้งที่เป็นวัสดุเกษตร (Agricultural Waste) เช่น ซังข้าวโพด ยอดอ้อย ฟางข้าว ต้นข้าวฟาง ใบสำปะหลัง ใบและต้นสัปปะรด เปลือกผลไม้ ฯลฯ 2. ของเหลือจากอุตสาหกรรม (Industrial waste) ส่วนใหญ่โรงงานในประเทศไทยเป็นโรงงานที่ใช้วัตถุดิบจากภาคการเกษตรในการผลิตเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสูงขึ้น เช่น โรงงานผลิตสุราและแอลกอฮอล์ โรงงานผลิตอาหารและผลไม้กระป๋อง เป็นต้น ดังนั้นจึงมีของเสียที่ปล่อยทิ้งซึ่งอยู่ในรูปของแข็งและของเหลวจากวัตถุดิบเกษตร ของเสียเหล่านี้ยังมีปริมาณสารอินทรีย์อยู่มากและได้ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเวลาช้านานแล้วของเสียจากอุตสาหกรรมเกษตรและวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร ประกอบด้วยสารอินทรีย์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีคุณค่าทางเศรษฐกิจอยู่ ดังนั้น หากได้มีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการแยกสารอินทรีย์เหล่านี้ให้เป็นสารอินทรีย์ที่มีคุณค่าสูงขึ้น เช่น การแยกลิกนิน (Lignin) จาก Sulphite waste liquor and Black liquor จากน้ำทิ้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ การแยกสารสเตอรอยด์ จากการผลิตเส้นใยป่านศรนารายณ์ ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นของการผลิตสเตอรอยด์ฮอร์โมน การสกัดแทนนิน (Tannin) จากเปลือกเงาะ การผลิตปุ๋ยหมัก และการผลิตแก๊สชีวภาพ เป็นต้น ดังนั้น จึงเห็นว่าการนำวัสดุเหลือใช้ หรือของเสียจากอุตสาหกรรมเกษตรมาใช้ประโยชน์ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างเป็นระบบ (System Approach)โดยศึกษาตั้งแต่วัสดุเหลือใช้การเกษตรต่าง ๆ ที่มีอยู่ในภาคเกษตรกรรม น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม6โดยเฉพาะในด้านปริมาณและ คุณลักษณะ ตลอดจนแหล่งของวัตถุดิบจนถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม

Data and Resources

Additional Info

Field Value
* Data Type ข้อมูลสถิติ
Allow for harvest to GD-Catalog Yes
* Contact Person กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
* Contact Email nakhonsawan@doae.go.th
* Objective ยุทธศาสตร์ชาติ
* Update Frequency Unit ปี
Update Frequency Interval 1
* Geo Coverage อำเภอ
* Data Source สำรวจข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ(สำนักงานเกษตรจังหวัดนครสวรรค์)
* Data Format CSV
* Data Category ข้อมูลสาธารณะ
Data Classification
* License License not specified
Accessible Condition ไม่มี
URL
Data Language ไทย
Last updated date September 1, 2021
Data release calendar September 1, 2021
First year of data (Statistical data) 2564
Last year of data (Statistical data) 2567
Disaggregate (Statistical data) ไม่มี
Unit of measure (Statistical data) กิโลกรัม
Unit of multiplier (Statistical data) หน่วย
Calculation method (Statistical data) ไม่มี
Standard (Statistical data) ไม่มี
Official Statistics
Create by การนำเข้าโดย templete
Created May 14, 2025
Last Updated May 21, 2025